สัมมนาทางการศึกษาปฐมวัย
Seminar in Early Childhood Education
บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 4
วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ.2561
ความรู้ที่ได้รับ
➽อาจารย์ให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอสัมมนาของแต่ละกลุ่ม ซึ่งกลุ่มของดิฉันได้นำเสนอดังนี้
เทคนิคการสอนคําศัพท์ภาษาอังกฤษสําหรับเด็กวัยอนุบาล
1. การเลือกคําศัพท์ ควรจัดคําศัพท์ให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันจะช่วยให้จําได้ง่ายขึ้น เช่น ศัพท์เกี่ยวกับอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า อวัยวะร่างกาย สีต่างๆ เป็นต้น
2. วิธีการสอน เน้นให้เด็กได้ฝึกการใช้ศัพท์ การสอนศัพท์เพียงครั้งเดียวไม่พอ จะต้องทบทวนบ่อยๆ ด้วยวิธีการอันหลากหลาย เพื่อมิให้เด็กเกิดความเบื่อหน่าย และควรหมั่นทบทวนบ่อยๆ เพราะถ้าศัพท์ที่สอนไปแล้วไม่ได้ใช้ เด็กก็อาจลืมได้
3. การสอนคําศัพท์ใหม่ ควรสอนให้ผ่านประสาทสัมผัสให้มากที่สุด โดยใช้รูปแบบประโยคหรือศัพท์ที่เด็ก เคยเรียนรู้มาแล้ว โดยมีคําที่เป็นศัพท์ใหม่ปนอยู่เพียงคําเดียว แล้วให้เดาความหมายของคําศัพท์นั้น วิธีนี้จะ ทําให้นักเรียนจําความหมายได้ดีกว่าแบบบอกตรงๆ
ตัวอย่างคำศัพท์ที่ใช้ในชั้นเรียน
-Time’s up. Back to your seats. -See you again next time.
-Look at the picture. -Please just listen.
-Everyone listen to me -Try again.
-You can do it. -Do you understand?
-Show you how to play -Are you ready?
เทคนิคการใช้นิทานเพื่อสอนภาษาอังกฤษ
🔺1.การเลือกนิทาน
นิทานที่จะเลือกควรเป็นนิทานที่มีคําสั้นๆ เน้นนิทานที่มีภาพประกอบ อาจเป็นนิทานเน้นสอน คําศัพท์ หรือนิทานที่เป็นเรื่องที่เด็กสามารถมีกิจกรรมและมีส่วนร่วมกับเรื่องได้ดีตามความสนใจของเด็ก มี การใช้ภาษาที่เหมาะสมตามวัยและพัฒนาการของเด็ก เนื้อเรื่องมีการใช้คําศัพท์ซ้ำ ใช้คําคล้องจอง และมี รูปแบบประโยคที่เข้าใจง่าย เรื่องราวไม่ซับซ้อน
🔺2. การเล่านิทาน
ก่อนการเล่านิทาน ควรพูดคุยกับเด็กในหัวข้อที่เกี่ยวกับนิทานอาจเป็นประสบการณ์ของครูเอง หรือของเด็กคนใดคนหนึ่งในห้อง และเน้นการจดจําคําศัพท์และสํานวนของภาษาต่างประเทศ ด้วยการใช้คําซ้ํา สร้างบรรยากาศของการใช้สํานวนของเจ้าของภาษา เช่น ให้เริ่มต้นการเล่านิทานด้วยการบอกเด็กเป็น ประโยคภาษาอังกฤษ เช่น I’m going to tell you a story about …….หรือ Once upon the time…...เพื่อ เด็กจะสามารถจํารูปแบบการเล่านิทานจากครูได้โดยไม่ต้องสอน
ใช้น้ำเสียงให้เหมาะกับเรื่องและอารมณ์ของตัวละครที่สวมบทบาทอยู่ มีการใช้เสียงสูง ต่ำ เป็นจังหวะ โดยเมื่อถึงจุดสําคัญของเรื่องควรเปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วม เช่นการตั้งคําถามเป็นภาษาอังกฤษในขณะที่เด็กกําลังอยู่ในอารมณ์ร่วมอยู่ โดยอาจใบ้เป็นท่าทางตามเรื่องเพื่อให้เด็กเกิดความสนุกสนานมากขึ้น
ควรใช้ท่าทางและสีหน้าประกอบการเล่า และพยายามให้เด็กมีโอกาสทํากิจกรรมที่เคลื่อนไหว โดยอาจให้เด็กทําท่าทางตามตัวละครในเนื้อเรื่อง โดยมีครูเป็นผู้ออกเสียง พูดประโยคตามท่าทางนั้นๆ อย่างช้าๆ เพื่อให้เด็กจําท่าทางและสําเนียงของภาษา พร้อมกับความเพลิดเพลิน นอกจากนี้นักเรียนยังเกิด ความรู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วมอยู่ตลอดเวลา ทําให้การเรียนรู้สนุกมากยิ่งขึ้น
ครูสามารถใช้เกมเพื่อเป็นการทบทวนคําศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับนิทาน มาต่อยอดทํากิจกรรมที่ หลากหลายขึ้นเพื่อให้เด็กเข้าใจและคุ้นเคยกับภาษาและคําศัพท์ในเนื้อเรื่อง ครูสามารถเล่าซ้ำหรือทบทวนอยู่เสมอ
🔺3. การจัดการชั้นเรียน
ครูอาจจะลองจัดที่นั่งให้เด็กใหม่ให้เด็กลงมานั่งที่พื้นล้อมรอบตัวครู หรือ ออกไปเล่านิทาน กลางแจ้งใต้ร่มไม้ เพื่อสร้างบรรยากาศแปลกใหม่และพิเศษ
🔺4. สื่อประกอบการเล่านิทาน
ควรหาอุปกรณ์และสื่อที่ดึงดูดให้เด็กสนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชั่วโมงนั้นๆ เช่น การนําเพลงมา ใช้ประกอบเนื้อเรื่องมาเปิด เพื่อใช้เสียงเพลงกระตุ้นความรู้สึกของเด็กอาจให้เด็กเคลื่อนไหวตามจังหวะหรือแสดงท่าประกอบคําศัพท์ในเพลงอย่างง่ายหรืออาจใช้เทคนิค Finger Play มาสอนคําศัพท์ในนิทาน การนําตุ๊กตามาสมมุติเป็นตัวละคร การจัดทําฉากนิทาน3มิติ
เทคนิคการใช้เพลงเพื่อสอนภาษาอังกฤษ
1. การเลือกเพลง
1. เพลงนั้นต้องไม่ยาวเกินไป เพลงควรมีทํานอง คําร้องที่ชัดเจน และไม่ยาวจนเกินไป
2. เพลงควรมีทํานองที่ซ้ำกัน ซึ่งเป็นการง่ายต่อการเรียน
3. เนื้อหาควรถูกต้องตามไวยากรณ์ เช่น Subject Verb, Agreement และWord Order
4. เลือกเพลงให้เหมาะสมกับอายุและระดับชั้นของผู้เรียน ดังนั้น ก่อนการนําเพลงมาให้ประกอบการเรียนการสอน จึงควรพิจารณาลักษณะของเพลงว่า เหมาะสมเพียงไร
2. ลําดับขั้นตอนการสอนเพลง
1. ครูอธิบายสั้นๆให้นักเรียนเข้าใจ เป็นบทเพลงเกี่ยวกับอะไร ครูอาจใช้อุปกรณ์การสอน ช่วยแสดงความหมายของคําศัพท์บางคําที่นักเรียนไม่เคยเรียนมาก่อน
2. ครูร้องให้นักเรียนฟัง1-2จบ
3. ครูร้องนํา 1หรือ2 บรรทัด ให้นักเรียนร้องตามเมื่อแน่ใจว่านักเรียนร้องได้ถูกต้องทั้งคํา ร้องและทํานองจึงร้องนําบรรทัดต่อไป โดยร้องทวนบรรทัดต้นๆก่อนทุกครั้ง
3. ครูร้องพร้อมกับนักเรียนตั้งแต่ต้นจนจบ ถ้าเนื้อเพลงยาวและมีคํายาก ครูอาจเขียนเนื้อ เพลงให้นักเรียนดูในขั้นตอนก็ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรเขียนเนื้อเพลงให้นักเรียนดูก่อน เพราะจะทําให้ นักเรียนเป็นกังวลต่อการอ่านหรือสะกดตัวมากไป
4. ครูเขียนเนื้อเพลงให้นักเรียนอ่านและคัดลอกลงในสมุด ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การสอนเพลงให้ถูกวิธีต้องปฏิบัติอย่างมีขั้นตอน ครูผู้สอนต้องวางแผน เตรียมสื่อ อุปกรณ์ต่างๆให้พร้อมโดยเฉพาะตัวครูเอง ต้องมีความพร้อมเป็นอับดับแรก อย่างไรก็ตามก่อนการร้องเพลง ทุกครั้งต้องไม่ลืมที่จะบอกผู้เรียนว่าเพลงนั้นๆเป็นคําร้องและทํานองของใคร(ถ้าทราบ) เพื่อให้เกียรติผู้แต่งคําร้องและทํานองนั่นเอง
เพลง เดิน
คำศัพท์น่ารู้
1. Daddy = พ่อ
2. Mommy = แม่
3. Brother = พี่/น้อง ชาย
4. Sister = พี่/น้อง สาว
5. Baby = น้องเล็ก
ประโยคน่ารู้
1. Where are you? = คุณอยู่ที่ไหน
2. Here I am? = ฉันอยู่นี่
3. How do you do? = สบายดีหรือ
สื่อ
1. สีสำหรับวาดนิ้วหรือถุงมือ 2. ถุงมือผ้า
วิธีการสอน
1. ครูร้องเพลงและทำท่าทางประกอบให้เด็กดู 1-2 รอบ
2. ให้เด็กร้องเพลงและทำท่าทางประกอบพร้อมกับครู 1-2 รอบ
3. ให้เด็กร้องเพลงและทำท่าทางด้วยตนเอง
ข้อพึงสังเกต
สีที่นำมาวาดนิ้วมือควรจะล้างออกได้ง่ายและไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น